วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

ทองเอก

ทองเอก
         ขนมทองเอก คือ ขนมไทยที่มีส่วนผสมของแป้งสาลี น้ำตาล ไข่แดง และกะทิกวนจนข้น แล้วนำใส่แม่พิมพ์ให้ได้รูปตามที่ต้องการ จากนั้นจึงแคะออกจากแม่พิมพ์ แล้วนำมาอบด้วยเทียนอบ
        ประวัติ
         ขนมทองเอกในสมัยโบราณนั้นได้มีการนำทองคำเปลวมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาประดับไว้ด้านบนของขนมทองเอก โดยใช้วิธีการวางแผ่นทองคำเปลววางไว้บนแม่พิมพ์ก่อนเทขนมทองเอกลงในแม่พิมพ์ แต่ปัจจุบันไม่มีการนำทองคำเปลวมาตกแต่งขนมทองเอก เนื่องจากทองคำเปลวเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้รับประทาน
         ขนมทองเอกเป็นขนมในตระกูลทอง ซึ่งขนมในตระกูลทองอันได้แก่ ทองเอก ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมในตระกูลนี้จะต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำ เพราะเป็นขนมที่มีลักษณะสง่างาม และโดดเด่นกว่าขนมชนิดอื่น ขนมทองเอกนั้นเป็นขนม 1 ใน 9 ชนิดที่ถูกเรียกว่าขนมมงคล อันได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น เม็ดขนุน ถ้วยฟู จ่ามงกุฏ ทองเอก และ เสน่ห์จันทร์ ขนมมงคลนั้นจะใช้ในการนำไปประกอบเครื่องคาวหวานเพื่อถวายพระในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานมงคลสมรส หรืองานขึ้นบ้านใหม่ โดยเชื่อว่างานมงคลเหล่านี้จะต้องใช้เฉพาะขนมไทยที่มีชื่อไพเราะ และเป็นสิริมงคล ซึ่งคำว่า เอก ในชื่อขนมทองเอกนั้น หมายความว่า การเป็นที่หนึ่ง
  
ส่วนผสมทองเอก1. แป้งสาลี (บัวแดง)                                         1/2 ถ้วย
2. ไข่แดงไข่ไก่                                                 6 ฟอง
3. น้ำตาลทราย                                                 3/4 ถ้วย
4. กะทิ (กะทิกล่อง 3/4 ถ้วย + น้ำ 1 ถ้วย)              1 ถ้วย

วิธีทำทองเอก

1. อ่างใส่แป้งสาลี น้ำตาล กะทิ 1/2 ส่วน ค่อยๆ ใส่ ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลละลายใส่ไข่แดงผสมกะทิ 1/2ส่วนที่เหลือ คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าข้าวบางเทใส่กะทะทอง คนก่อนขึ้นตั้งไฟทุกครั้ง (ส่วนผสมนอนก้น) ใช้ไฟอ่อนที่สุด กวนช้าๆ เป็นวงกลม พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น กวนแบบชักขึ้นลงช้าๆ (ไม่กระชาก)
2. การกวนขนม – ใช้มือแต่ข้างกะทะทองเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ ถ้าร้อนเกินมือจับได้ ยกลงวางบนถาดที่มีผ้าเปียกน้ำ กวนขนมต่อไป จนรู้สึกว่ากะทะเริ่มเย็นตัวลง ยกขึ้นตั้งไฟใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลากวนประมาณ 2-3 ชม. ดูแป้งข้นเหนียว ยกลงจากเตา ใช้พายไม้เกลี่ยให้เย็นตัว แบ่งส่วนผสมอัดลงพิมพ์ (ทองเอก) เคาะออกจากพิมพ์บนเขียงที่ปูด้วยผ้าข้าวบาง ใช้ทองแปะตรงกลางขนม วางใส่จาน นำไปอบควันเทียนในรังถึง


วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

ขนมถ้วยฟู

 
 
 
 
ขนมถ้วยฟู
 
 
 
 
 
 
        
 
          ส่วนผสม.
 
 
1.แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
3. น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วยตวง
4. ยีสต์ 1 ช้อนชา
5. ผงฟู 1 ช้อนชา
 
 
 
 
วิธีการทำ
 
 
1. ใส่ยีสต์ลงไปในแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน ใส่น้ำลอยดอกไม้ทีละช้อน นวดจนแป้งนิ่มเนียน
2. ใส่น้ำตาลและน้ำทั้งหมดลงในแป้ง ใส่ผงฟู นวดต่อไป ปิดฝาครอบไว้ 1-2 ชั่วโมง
3. เรียงถ้วยตะไลลงในรังถึง นึ่งในน้ำเดือดจนถ้วยร้อนประมาณ 5 นาที
4. ตักขนมที่ผสมไว้ลงในถ้วยตะไลพอเต็มปิดฝานึ่งให้สุกประมาณ 10-15 นาที ยกลงพักไว้ให้เย็น แล้วจึงแกะออกจากถ้วย
 
 
 
 
 
 

ขนมสเน่จันทร์

ขนมเสน่จันทร์
   
    ส่วนผสม
      
        1.  แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
       2.   แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
       
       3.    ผงจันทน์เทศป่น 1/2 ช้อนชา
       
       4.    หัวกะทิ 4 ถ้วย
       
       5.    น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
       
       6.   ไข่ไก่ 4 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
      
       7.    น้ำตาลปี๊บสำหรับทำขั้วผลจันทน์
        
       8.    เทียนอบขนม
  
    วิธีการทำ
1 . ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และผงจันทน์เทศป่นเข้า ด้วยกัน
2.  นำหัวกะทิและน้ำตาลทรายใส่หม้อ ตั้งบนไฟอ่อน คนจนน้ำตาลละลาย หมด จากนั้นจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง และนำไปผสมกับแป้ง ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนี่ง
3.  นำส่วนผสมที่ได้ ไปตั้งบนไฟอ่อน ค่อยๆกวนจนส่วนผสมข้น จึงยกลง
4.  ใส่ไข่แดงทีละฟอง ลงไปในส่วนผสมแป้งน้ำตาลกะทิ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นไปตั้งบนไฟอ่อนอีกครั้ง กวนต่อจนส่วนผสมจับตัวเหนียว ให้พอปั้นได้ จึงปิดไฟ
5.  นำส่วนผสมที่ได้ปั้นเป็นทรงกลม คล้ายผลจันทน์ และตกแต่งจุกด้วย น้ำตาลปี๊บเคี่ยว
6.  นำขนมที่ทำเสร็จแล้วไปอบควันเทียน เสร็จแล้วสามารถนำไปทานเป็นของว่างได้ทันที หรือจะเก็บใส่โหลมิดชิดไว้ทานภายหลังก็ได้
หมายเหตุ : ขั้วผลจันทน์ (จุก) สีน้ำตาลทำได้โดยนำน้ำตาลปี๊บไปเคี่ยวจนข้น เสร็จแล้วจึงนำมาหยอด

ความหมายของขนมชั้น พร้อมสูตร



                                                                       ขนมชั้น



         
ขนมชั้น  


    ขนมชั้น
เป็น ขนมไทย ที่ถือเป็น ขนมมงคล และจะต้อง หยอด ขนมชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะ คนไทย มีความเชื่อ
ว่าเลข 9 เป็น เลขสิริมงคล หมายถึง ความเจริญก้าวหน้า และ ขนมชั้น ก็หมายถึงการได้
เลื่อนชั้น เลื่อน ยศถาบรรดาศักดิ์ ให้สูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
แป้งท้าวยายม่อม 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
กะทิ 6 ถ้วยตวง
น้ำดอกอัญชัญ 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำใบเตยคั้นสด,หรือใช้สีผสมอาหารตามแต่สีที่ต้องการ)
      วิธีการทำขนมชั้น
1. นำดอกอัญชันล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นใส่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเตรียมน้ำดอกอัญชัญ กรณีต้องการทำสีเขียวจากใบเตย ก็นำเอาใบเตยไปล้างให้สะอาดและนำไปปั่นใส่น้ำและกรองด้วยผ้าขาวบาง กรณีต้องการสีอื่น อาจใช้สีผสมอาหารแทน
2. นำน้ำลอยดอกมะลิไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ผสมน้ำตาลทรายลงไป คนจนละลายดีเสร็จแล้3. นำแป้งทั้งสองชนิด ผสมกับกะทิ นวดให้เหนียว จากนั้นใส่น้ำลอยดอกมะลิที่ผสมน้ำตาลแล้ว (ขั้นตอนที่ 2) ลงไปผสมให้เข้ากัน วทิ้งไว้ให้เย็น
4. แบ่งแป้งที่ผสมแล้วออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกแบ่งไว้ทำสีขาว และส่วนที่สอง ไว้ทำสีม่วงโดยเติมน้ำดอกอัญชัน (น้ำใบเตยหรือสีผสมอาหาร)ลงไปคนให้เข้ากัน
5. นำถาดที่ต้องการ (หรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้) ใส่บนลังถึงตั้งบนไฟแรง ๆ พอน้ำเดือดเปิดฝา ตักแป้งสีขาวเทใส่ลงในถาดเกลี่ยให้ทั่วถาดบางที่สุด ปิดฝาเพื่อให้สุกประมาณ 5 นาที เปิดดูแป้งจะมีลักษณะใส จากนั้นตักแป้งสีม่วง (หรือสีที่ผสมลงไป) ใส่ลงไป อีก ทำสลับกันจนแป้งหมด (เคล็ดลับ : ควรใช้ภาชนะที่มีความจุเท่ากันในการตวงแป้งเทแต่ละชั้น เพื่อที่จะได้แป้งที่มีความหนาเท่า ๆ กัน)
6. นึ่งจนขนมสุกทั้งหมด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงจึงตัดเป็นชิ้นเพื่อเสริฟ (เคล็ดลับ : ก่อนที่จะเทแป้งเพื่อทำชั้นต่อไปทุกครั้ง จะต้องแน่ใจว่าขนมในชั้นล่างนั้นสุกแล้วจริง ๆ ไม่เช่นนั้น แป้งชั้นนั้นจะไม่สุกเลย ถึงแม้จะใช้เวลานึ่งนานเท่าใดก็ตาม)



ขนมจ่ามงกุฎ



                                                                     ขนมจ่ามงกุฎ





ส่วนผสม

เม็ดแตงโมแกะแล้ว 1/2 ถ้วย
นํ้าตาลทราย 1/2 ถ้วย
นํ้าดอกมะลิ 1 ถ้วย
ทองคำ เปลวแท้ 2 แผ่น
แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง

วิธีทำ
1. เชื่อมนํ้าตาล โดยใช้นํ้าตาลกับนํ้าดอกมะลิตั้งไฟให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วตั้งไฟต่ออีก 5 นาที
2. ล้างขัดกะทะทองเหลืองให้สะอาดเป็นเงา ตะแคงข้างหนึ่ง คั่วเม็ดแตงโม โดยใช้มือจุ่มลงในนํ้าเชื่อม แล้วกวาดไปมา จนน้ำ ตาลแห้งแล้ว ใช้มื่อจุม่ น้ำ เชื่อม ทำ เช่นนี้ต่อไปจน น้ำ ตาลเกาะเป็นหนามติดเม็ดแตงโมพองาม เก็บใส่ภาชนะ อย่าให้อากาศเข้า
3. ระหว่างที่กวาดเม็ดแตงโมอยู่นั้น ต้องตะแคงกะทะและใช้ ผ้าขาวบาง เช็ดกะทะให้สะอาดอยู่เสมอ
4. นวดแป้งกับไข่แดงจนนิ่มมือ ถ้ายังแห้งอยู่จึงเติมนํ้า แล้ว คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ กดให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร นำ แผ่นแป้งที่ตัดแล้ว ใส่ในถ้วยตะไลใช้มือ กดเบา ๆ ให้เป็นรูปก้นถ้วยตะไล ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วจึงเอาไป อบพอสุกกลายเป็นแป้งรองขนม
5. การทำ มงกุฏ ให้เอานํ้าตาลทรายใส่หม้อเล็ก ๆ ใส่นํ้านิด หน่อย ตั้งไฟอ่อน ๆ พอนํ้าตาลละลายเอาเม็ดแตงโมที่ กวาดไว้แล้วลงจุ่มให้นํ้าตาลติดกับแป้งที่อบไว้รอบ ๆ
6. ปั้นทองเอกกลม ๆ วางตรงกลาง ใช้มีดปลายแหลมผ่าเป็น 6 พู เหมือนผลมะยม แล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว วางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ใช้ทองคำ เปลวตัดเป็นสี่เหลี่ยมชิ้น เล็ก ๆแตะตรงยอดมองเห็นเหมือนมงกุฏ
กลเม็ดเคล็ดลับ การทำแป้งรองขนมจ่ามงกุฏนั้นบางครั้งก็ต้องเติมนํ้าและบาง ครั้ง ก็ไม่ต้องเติม ทั้งนี้ แล้วแต่นํ้าในไข่ที่ใช้นั่นเองทองคำ เปลว ต้องแน่ใจว่าเป็นของแท้ เพราะถ้าเป็นของปลอม จะเป็นอันตรายมาก เนื่องจากสารตะกั่ว




วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

ขนมลูกชุบ
       ส่วนผสมตัวลูกชุบ
ถั่วเขียวเลาะเปลือก                                                 250  กรัม
น้ำตาลทราย                                                            1 3/4  ถ้วยตวง
กะทิกล่อง                                                                (2 ถ้วย )  480 ซีซี
ใบเตย                                                                      4 ใบ
        ส่วนผสมวุ้นเคลือบ
วุ้นผง                                                                       2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ                                                                            2  ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย                                                            1 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหารสีต่างๆ
        วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวแช่น้ำค้างคืนไว้ แล้วล้างให้สะอาด ใส่กระชอน
2.  ล้างใบเตยให้สะอาดตัดเป็น 2 ท่อน
3.  นำวุ้นผงโปรยลงในน้ำ 2 ถ้วย
4.  นำถั่วใส่บนลังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบาง นึ่งไฟแรงจนกระทั่งนุ่ม (ประมาณ 30 นาที )
5.  ผึ่งถั่วให้คลายร้อน แล้วนำน้ำตาลทราย กะทิ มาผสมใส่ลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด
6.  เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลืองใส่ใบเตย ยกขึ้นตั้งไฟ กวนจนกระทั่งร่อนจากกระทะ
7.   ปั้นถั่วกวนเป็นรูปผลไม้ต่างๆ ระบายสีพักไว้
8.   นำหม้อวุ้นขึ้นตั้งไฟใส่น้ำตาล คนให้เดือด ยกลง
9.  นำผลไม้ที่ระบายสีแล้ว ลงจุ่มในวุ้นขณะที่ยังอุ่นๆ พักไว้
10. ตัดใบแก้ว ก้านแก้ว สำหรับเสียบผลไม้ที่ชุบวุ้นแล้ว



ขนมทองหยิบ
        ส่วนผสม
ไข่เป็ด                                                                                12 ฟอง
น้ำตาลทรายขาว                                                                500 กรัม
น้ำ                                                                                      1 1/2 ถ้วยตวง
         วิธีทำ
1. ใส่น้ำ น้ำตาล ลงในกระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้เป็นน้ำเชื่อมข้นๆ
2.  ต่อยไข่ใส่ภาชนะ (ระวังอย่าให้ไข่แดงแตก) แยกไข่ขาว ไข่แดงรีดเอาเยื่อออก
3. ตีไข่แดงให้ขึ้นฟู พักไว้
4. ยกน้ำเชื่อมขึ้นตั้งไฟให้เดือด ยกลง ตักไข่ที่ตีไว้หยอดลงในน้ำเชื่อม เรียงกันจนไม่มีที่ว่างอย่าให้ติดกัน
5.  ยกกระทะขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง คะเนว่าไข่ด้านล่างสุก กลับไข่อีกด้านลง พอไข่สุกดี ช้อนขึ้นใส่จานแบนๆ
6. ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลางทั้ง 2 มือ (แตะน้ำเย็นเพื่อนกันไม่ให้น้ำตาลติดมือและร้อน)ช่วยกันหยิบแผ่นไข่ให้เป็นกลีบตามต้องการ (จะเป็น 3-5-7 กลีบตามต้องการ)  วางลงในถ้วยตะไล


ขนมสังขยาตัด
         ส่วนผสม
ไข่เป็ด                                                                               5 ฟอง
น้ำตาบปี๊บ                                                                         1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ                                                                              1 ถ้วยตวง
         วิธีทำ
1. ต่อยไข่ผสมกับน้ำตาล ตีให้เข้ากันประมาณ 10-15 นาที ระหว่างตีไข่ให้ใส่หัวกะทิทีละน้อย จนหมด
2. เทใส่ถาด นึ่งลงในลังถึง น้ำเดือดพล่าน และไฟแรงตลอดเวลา นึ่งประมาณ 30 นาที (ต้องนึ่งถาดให้ร้อนก่อนจึงจะใส่สังขยาลงนึ่ง)


ขนมเม็ดขนุน
           ส่วนผสม
มะพร้าวขูดชนิดขาว                                                          3/4 ถ้วยตวง
กะทิข้นคั้นด้วยน้ำลอยดอกมะลิ                                        1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายขาว                                                               1 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วเหลืองหอมนึ่งสุกบดละเอียด                                        2 1/2 ถ้วยตวง
           ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำลอยดอกมะลิ                                                                1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายขาว                                                               2 ถ้วยตวง
ส่วนผสมอื่นๆ
ไข่แดงของไข่เป็ด                                                            10 ฟอง
           วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมเมล็ดขนุนทั้งหมดในกระทะทอง ตั้งไฟอ่อนปานกลาง กวนด้วยช้อนไม้จนกระทั่งส่วนผสมเหนียวขนาดปั้นไม่ติดมือ เมื่อเย็นแล้ว
2. ปั้นขนมเป็นรูปเมล็ดขนุนขนาดเท่าของจริง คือเป็นรูปรีหัวท้ายมน
3. ใส่ไข่แดงในผ้าขาวบางชุบน้ำ บิดหมาด รีดไข่ออกใส่ชามไว้
4.  ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายลงในกระทะทอง ใส่เปลือกไข่สะอาด 2 ฟอง และไข่ขาว ลง 1 ฟอง บี้ด้วยช้อนไม้จนเปลือกไข่ละเอียด ใส่น้ำลอยดอกมะลิ ตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนเสมอ จนมีฟองสกปรกเต็มช้อนฟองออก เคี่ยวต่อช้อนฟองออกอีก แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางจนสะอาด
5.  ตั้งกระทะน้ำเชื่อมที่สะอาดแล้วบนไฟกลาง เคี่่ยวให้ข้นปานกลางและเดือด
6.  ใช้ไม้กลัดจิ้มเมล็ดขนุนชุบลงในไข่แดง แล้วใส่ในกระทะเชื่อม ให้ไข่แดงไหลเป็นจุดอยู่ที่ปลายข้างหนึ่ง เหมือนกับเมล็ดขนุนที่ถูกแกะเนื้อออกแล้ว แต่มีเยื่อหุ้มอยู่ ใส่ขนมเมล็ดขนุนประมาณ 10 ชิ้น
7. พอขนมเมล็ดขนุนสุกจะลอยตัวขึ้นประมาณ 1 นาที ตักขึ้น


ขนมบัวลอยเผือก
            ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว                                                                    1/2 ถ้วย
แป้งมัน                                                                                1 ช้อนโต๊ะ
กะทิกระป๋อง (ขนาด 400 มล)                                              1 กระป๋อง
น้ำตาลทราย                                                                        4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊ป                                                                            1 ช้อนโต๊ะ
เผือก                                                                                    1 ถ้วย
เกลือป่น                                                                               1/2 ช้อนชา
เนื้อมะพร้าวอ่อน                                                                   100 กรัม
             วิธีทำ
1. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง นำเผือกไปนึ่งในหม้อนึ่งประมาณ 20 นาทีหรือจนเผือกสุก เมื่อเผือกสุกแล้ว รอให้เผือกเย็นจึงนำมาขูดเอาแต่เนื้อออกให้หมด
2. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา และเกลือป่นนิดหน่อย ผสมลงไปในชามผสมจากนั้น นำเผือกที่ขูดไว้มาผสมกับแป้ง
3. นำกะทิมาแบ่งใส่ถ้วยประมาณ ½ ถ้วย ส่วนกะทิที่เหลือนำไปใส่หม้อไว้ ใส่น้ำกะทิลงไปในส่วนผสมแป้งประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นทำการนวดให้เผือกเข้ากับแป้ง ถ้าแป้งแห้งไปให้เติมกะทิลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ นวดไปเรื่อยๆ จนแป้งและเผือกเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. เมื่อนวดจนแป้งเนียนได้ที่แล้วก็ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ ขนาดประมาณ ¼ นิ้ว ปั้นไปเรื่อยๆ จนแป้งหมด จากนั้น เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เอาน้ำเปล่าประมาณ 4 ถ้วยใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนน้ำเดือดจึงเอาแป้งที่ปั้นไว้ใส่ลงไป รอจนแป้งสุก (สังเกตว่าแป้งจะลอยขึ้นมาเอง) ก็ช้อนแป้งที่สุกแล้วมาแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้แป้งคงตัว
5. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง นำกะทิในหม้อไปตั้งบนเตา ใส่น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊ป และเกลือป่นลงไป หมั่นคนตลอดเวลา จากนั้น นำเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในกะทิ คนจนกะทิเดือดก็นำเม็ดบัวลอยที่เย็นแล้วใส่ลงในหม้อกะทิ คนให้เข้ากัน
6. ตักใส่ถ้วย แล้วตกแต่งให้สวยงาม